จากกรณี พ ต ท ศิวกร ฉิมพาลี สว สอบสวน สภ ฉวาง จ นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนคนเสียชีวิตเหตุระหว่างสถานีรถไฟฉวาง คลองจันดี บริเวณบ้านคลองสำโรง หมู่ 4 ต.จันดี อ.ฉวาง ห่างจากถนนพาดรถไฟคลองจันดีประมาณ 500 ม.
พบผู้ตายเป็นศพชายอายุประมาณ 45 – 50 ปี ในตัวไม่มีเอกสารใดๆ สภาพศพถูกรถไฟชนบดร่างเละชิ้นเนื้อกระจายเกลื่อนบริเวณเสียชีวตในชุดสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว จึงเก็บชิ้นส่วนศพ เก็บรอสืบหาญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป เกิดเหตุเมื่อวานนี้
ล่าสุด วันที่ 31 ม.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านจากทุ่งยวน ม.3 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เดินทางไปติดต่อ พ.ต.ท.ศิวกร ฉิมพาลี ขอรับศพผู้ตายซึ่งเป็นคนวิกลจริตชอบเดินเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมายปลายทาง จนถูกขบวนรถไฟพุ่งชนเสียชีวิต
โดยจุดเกิดเหตุอยู่เขตรอยต่อ อ.ฉวาง กับ อ.นาบอน ไม่ไกลจากบ้านผู้ตายมากนัก ก่อนจะนำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดทุ่งยวน หมู่ 3 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช
อย่างไรก็ตาม เมื่อนำศพลงจากรถและไปตั้งบนแท่นและนิมนต์พระภิกษุมาสวดศพตามประเพณี ก่อนจะทำการเผาศพในวันเดียวกัน แต่ก็เกิดเรื่องโกลาหลขึ้น เมื่อชายวิกลจริตที่ญาติๆ เข้าใจว่าเป็นคนตาย ซึ่งอยู่ในโลงศพ สวมเสื้อสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีดำ เนื้อตัวและเสื้อผ้ามอมแมม เปรอะเปื้อน ได้เดินทางเข้ามานั่งบนศาลานั่งใกล้ๆกับกลุ่มญาติๆ สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับญาติๆ เป็นอย่างมาก
บางคนถึงกับลุกขึ้นวิ่งหนีจนกระเจิงไปถึงวัด เพราะเข้าใจว่าผีหลอก ก่อนที่กลุ่มญาติๆ เป็นชายฉกรรจ์จะตั้งหลักได้ รวบรวมความกล้า เดินเข้าไปหาเพื่อพิสูจน์ จึงพบความจริงว่าเป็นคนจริงๆ ยังไม่เสียชีวิตไม่ได้เป็นผีตามที่เข้าใจกันในตอนแรก
ในเบื้องต้น หลังจากญาติ แน่ใจว่าชายวิกลจริตซึ่งเข้าใจว่าเป็นคนที่ถูกรถไฟชนตายและอยู่ในโลงศพ ยังไม่ตายและมานั่งอยู่ในวัด ทางญาติๆ ได้เข้าไปพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุขดิบ โดยชายวิกลจริต ก็เล่าให้ฟังอย่างสับสน จับใจความได้บ้างไม่ได้บ้างตามประสาของคนวิกลจริต
แต่สรุปว่ากูยังอยู่นิ กูไม่ตายที ไม่รู้ใครในโลง ไม่ใช่กูนิ ทางญาติๆ จึงโทรศัพท์แจ้งจนท.ตำรวจและเตรียมจะนำศพกลับไปคืนให้กับตำรวจเพื่อนำไปเก็บไว้ที่ รพ.และติดต่อหาญาติที่แท้จริงของผู้ตายมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป และมีการนำเรื่องาวเหตุการณ์ไฟโพสต์ในเฟสบุ๊ค ที่นี่ทุ่งใหญ่ มีผู้เข้าไปติดตามและแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย
No comments:
Post a Comment